ประกวดภาพถ่าย “หลงรัก…วิถีไทย”

tatphotocontest2

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ขอเชิญร่วมประกวดภาพถ่าย “หลงรัก…วิถีไทย”

โครงการประกวดภาพถ่าย
ปีท่องเที่ยววิถีไทย ๒๕๕๘ : 2015 Discover Thainess
หัวข้อ “หลงรัก…วิถีไทย : Discover Thainess Photo Contest”

ความเป็นมา

เนื่องด้วยในปี ๒๕๕๘ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้กำหนดให้เป็น “ปีท่องเที่ยว วิถีไทย ๒๕๕๘ : 2015 Discover Thainess” ขึ้น โดยจะส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ในรูปแบบของวิถีไทย สร้างการรับรู้ถึงภาพลักษณ์ด้านบวกจากความรัก ความสามัคคี ความปลอดภัย และมิตรไมตรีของคนไทย โดยเฉพาะความสุข ความรื่นเริง ความเป็นอยู่แบบไทยที่สามารถพบเห็นได้ทุกถิ่นทั่วไทย เป็นการเชื่อมโยงด้านความรู้สึกของนักท่องเที่ยวให้เข้าถึงวิถีไทย (Thainess) อันจะเป็นการดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมความเป็นไทยแบบยั่งยืนควบคู่กับการกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกของนักท่องเที่ยวที่สนุกสนานและเบิกบานใจที่ได้เข้ามาท่องเที่ยวพร้อมกับสัมผัสและเรียนรู้ วิถีความเป็นอยู่ตามแบบฉบับของชาวไทย

ในการนี้ จึงทำให้เกิดโครงการประกวดภาพถ่าย หัวข้อ “หลงรัก…วิถีไทย : Discover Thainess Photo Contest” ขึ้น เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดความสนใจในการเดินทางท่องเที่ยวและบันทึกภาพเก็บไว้ในความทรงจำ โดยสามารถนำภาพดังกล่าวไปเผยแพร่อีกด้วย นับเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น โดยมุ่งเน้นให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ตลอดจนปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตแบบไทย เพื่อสนับสนุน “ปีท่องเที่ยววิถีไทย ๒๕๕๘ : 2015 Discover Thainess”

จึงเห็นควรให้มีการจัดโครงการประกวดภาพถ่าย หัวข้อ “หลงรัก…วิถีไทย : Discover Thainess Photo Contest” ขึ้น เพื่อเชิญชวนประชาชนชาวไทยผู้สนใจทั่วไปและช่างภาพมืออาชีพส่งภาพถ่ายเข้าร่วมประกวด โดยหลังจากการตัดสินประกวดแล้ว จะนำภาพถ่ายที่ชนะการประกวดมาจัดทำนิทรรศการภาพถ่ายเผยแพร่ผลงาน และนำภาพถ่ายที่ส่งเข้าร่วมประกวดมาใช้ประกอบการจัดทำเอกสารเผยแพร่ประเทศไทยต่อไป

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดความสนใจในด้านวิถีไทย หรือรูปแบบความเป็นไทย ซึ่งจะนำไปสู่การเรียนรู้ เข้าใจ และภูมิใจในความเป็นไทย
  2. เพื่อเป็นเครื่องมือในการนำเสนอโครงการปีท่องเที่ยววิถีไทย ๒๕๕๘ ผ่านสื่อด้านภาพถ่าย
  3. เพื่อนำภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดมาใช้ในการจัดทำสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประเทศไทย อาทิ เอกสารเผยแพร่ โปสเตอร์ ป้ายโฆษณา ปฏิทิน สารานุกรมด้านการท่องเที่ยว ฯลฯ
  4. เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ตระหนักถึงคุณค่าความเป็นไทย และปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ด้านการท่องเที่ยว ตามแบบฉบับของวิถีไทย
  5. เพื่อเป็นช่องทางในการเผยแพร่ภาพถ่ายเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในด้านวิถีไทยที่หลากหลายแง่มุม จากการเดินทางไปถ่ายภาพประกวดนี้
  6. เพื่อส่งเสริมให้รักการถ่ายภาพด้านแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

ข้อกำหนดการส่งภาพถ่ายเข้าประกวด

๑ หัวข้อการประกวด

แบ่งการประกวดออกเป็น ๔ ประเภท ดังนี้

ประเภทที่ ๑ วิถีไทย ภาคเหนือ (๑๗ จังหวัด กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี)

ประเภทที่ ๒ วิถีไทย ภาคอีสาน (๒๐ จังหวัด กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ บึงกาฬ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด สกลนคร สุรินทร์ ศรีสะเกษ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ)

ประเภทที่ ๓ วิถีไทย ภาคกลาง และตะวันออก (ภาคกลาง ๑๙ จังหวัดกรุงเทพมหานครกาญจนบุรี ราชบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยนาท นครนายก นครปฐมนนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี สมุทรปราการสมุทรสาคร สมุทรสงคราม อ่างทอง(ภาคตะวันออก ๗ จังหวัด ชลบุรีระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว นครนายก ปราจีนบุรี)

ประเภทที่ ๔ วิถีไทย ภาคใต้ (๑๔ จังหวัด ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส)

๒. ผู้มีสิทธิ์ส่งภาพถ่ายเข้าประกวด

ประชาชนชาวไทยทั่วไป ไม่จำกัดเพศและอายุ

๓. กำหนดส่งภาพถ่าย

ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดได้ตั้งแต่วันที่ ๑ – ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (สิ้นสุดเวลา ๑๘.๐๐ น.)หมายเหตุ การส่งภาพถ่ายเข้าประกวดทางไปรษณีย์สามารถส่งภาพถ่ายได้ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน – ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๘ เท่านั้น (ดูตามตราประทับไปรษณีย์)

๔.รางวัลการประกวด

ประเภทที่ ๑ วิถีไทย ภาคเหนือ ภาคละ ๑๒ รางวัล ได้แก่

รางวัลชนะเลิศ เงินสด ๑๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรี

รางวัลรองชนะเลิศเงินสด ๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

รางวัลชมเชย ๑๐ รางวัล เงินสด รางวัลละ ๕,๐๐๐ บาท (รวม ๑๐ รางวัล เป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท) พร้อมประกาศนียบัตรจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ประเภทที่ ๒ วิถีไทย ภาคอีสาน ภาคละ ๑๒ รางวัล ได้แก่

รางวัลชนะเลิศ เงินสด ๑๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรี

รางวัลรองชนะเลิศเงินสด ๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

รางวัลชมเชย ๑๐ รางวัล เงินสด รางวัลละ ๕,๐๐๐ บาท (รวม ๑๐ รางวัล เป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท) พร้อมประกาศนียบัตรจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ประเภทที่ ๓ วิถีไทย ภาคกลางและภาคตะวันออก ภาคละ ๑๒ รางวัล ได้แก่

รางวัลชนะเลิศ เงินสด ๑๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรี

รางวัลรองชนะเลิศเงินสด ๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

รางวัลชมเชย ๑๐ รางวัล เงินสด รางวัลละ ๕,๐๐๐ บาท (รวม ๑๐ รางวัล เป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท) พร้อมประกาศนียบัตรจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ประเภทที่ ๔ วิถีไทย ภาคใต้ ภาคละ ๑๒ รางวัล ได้แก่

รางวัลชนะเลิศ เงินสด ๑๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรี

รางวัลรองชนะเลิศเงินสด ๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

รางวัลชมเชย ๑๐ รางวัล เงินสด รางวัลละ ๕,๐๐๐ บาท (รวม ๑๐ รางวัล เป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท) พร้อมประกาศนียบัตรจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

๕. วิธีการส่งภาพถ่ายประกวด

๑. ส่งภาพถ่ายผ่านระบบเว็บของสมาคมฯ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ผู้ประสงค์จะส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะต้องลงทะเบียนสมัครที่  http://www.rpst.or.th/tat/public/ โดยผู้สมัครจะต้องกรอกรายละเอียด พร้อมสร้าง Username และ Password ขึ้นมาเอง และสามารถ login เข้าเว็บไซต์เพื่อทำการ Upload ภาพได้ทันที

๒. บรรจุไฟล์ภาพถ่ายลงใน Flash Drive (ไม่รับการส่งภาพถ่ายด้วยแผ่นซีดี หรือดีวีดี) โดยสามารถส่งผ่านช่องทางที่สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กำหนดไว้

๒.๑ ส่งด้วยตนเอง ณ ที่ทำการสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชั้น ๒ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สี่แยกปทุมวัน (เปิดทำการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา ๑๑.๐๐-๑๘.๐๐ น. หยุดทุกวันจันทร์)

๒.๒ ส่งทางไปรษณีย์ระบุ โครงการประกวดภาพถ่าย “หลงรัก…วิถีไทย : Discover Thainess Photo Contest” ตู้ ปณ.๘๐ ปณศ. สามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐ โดยช่องทางนี้สามารถส่งภาพถ่ายได้ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน – ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๘ เท่านั้น (ดูตามตราประทับไปรษณีย์)

๖. กติกาในการส่งภาพถ่ายเข้าประกวด (กรุณาอ่านอย่างละเอียดทุกข้อ)

เพื่อให้การประกวดภาพถ่าย หัวข้อ “หลงรัก…วิถีไทย : Discover Thainess Photo Contest” เป็นเวทีการประกวดที่คงไว้ซึ่งมาตรฐานสูงสุดและต้องการมุ่งเน้นให้ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดสร้างสรรค์ผลงานที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำเดิม ทั้งในด้านของมุมมองและแนวความคิด คณะกรรมการจัดงานประกวด จึงบัญญัติกติกาที่ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ดังต่อไปนี้

  1. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด เป็นภาพถ่ายที่ถ่ายโดยการใช้กล้อง Digital และต้องเป็นภาพถ่ายที่ถ่ายไว้ไม่เกิน ๒ ปี นับจากวันที่ถ่ายถึงวันหมดเขตรับภาพ
  2. ไฟล์ภาพถ่ายที่ส่ง ต้องเป็นไฟล์ภาพถ่ายโดยมีความละเอียดไม่ต่ำกว่า ๒๔๐ dpi มีขนาดด้านที่สั้นที่สุดไม่ต่ำกว่า ๑,๘๐๐ Pixel และด้านที่ยาวที่สุดไม่เกินกว่า ๒,๘๐๐ pixels ในรูปแบบไฟล์ .jpg เท่านั้น และต้องไม่มีลายน้ำ เครดิตภาพ ตัวอักษร หรือกราฟิกใดๆ ลงบนภาพถ่าย รวมทั้งห้ามเว้นขอบภาพเป็นสีขาวหรือสีใดๆ
  3. ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะต้องสมัครเข้าระบบเว็บไซต์ของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมกรอกรายละเอียดที่ถูกต้องตามหลักฐานจริง (ลงทะเบียนสมัครที่นี่)
  4. ผู้ที่ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะต้องเป็นผู้สร้างสรรค์ภาพถ่ายนั้นๆ ด้วยตนเอง ห้าม ทำซ้ำ ดัดแปลง เลียนแบบภาพถ่ายของบุคคลอื่นๆ หรือนำภาพถ่ายของผู้อื่นมาส่งหรือส่งในนามผู้อื่นโดยเด็ดขาด ผู้ที่ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดขอรับรองว่าภาพถ่ายที่ถูกส่งเข้าประกวดนั้น เป็นภาพถ่ายที่ตนเองเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว ทั้งนี้ หากมีบุคคลที่สามกล่าวอ้างว่าภาพถ่ายที่ผู้ส่งภาพเข้าประกวดได้ส่งเข้าประกวดนั้น มีการละเมิดต่อกฎหมายพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ ผู้ที่ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะขอรับผิดชอบต่อค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว โดยที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อความผิดของผู้ที่ส่งภาพถ่ายเข้าประกวด
  5. ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะต้องระบุสถานที่ที่ถ่ายภาพ (ไม่จำกัดสถานที่) เช่น ระบุตำบล อำเภอ จังหวัด ฯลฯ ให้ถูกต้องครบถ้วน และเขียนคำอธิบายแนวความคิดไม่เกิน ๒ บรรทัด หากภาพถ่ายใดข้อมูลไม่ครบถ้วน จะถูกตัดสิทธิ์การส่งเข้าประกวด
  6. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด สามารถปรับแต่งภาพถ่ายได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องไม่ปรับแต่งภาพถ่ายโดยการใช้ภาพถ่ายมากกว่า ๑ ภาพมาประกอบกัน ต้องเป็นภาพถ่ายจากการถ่ายที่ได้ไฟล์จากกล้องเพียงไฟล์เดียว
  7. ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดแต่ละคนสามารถส่งผลงานภาพถ่ายได้ไม่เกิน ๕ ภาพ ในแต่ละประเภท โดยห้ามมิให้ส่งภาพถ่ายเดียวกันหรือภาพถ่ายที่มีองค์ประกอบใกล้เคียงกับที่ส่งแล้วในหัวข้อหนึ่ง ซ้ำกันอีกในหัวข้ออื่น และผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดแต่ละคนจะมีสิทธิ์รับรางวัลสูงสุดไม่เกิน ๑ รางวัล
  8. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดต้องไม่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดใดๆ มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการประกวดในเวทีสาธารณะ หรือการประกวดภายในของสมาคม ชมรม หรือองค์กรอื่นใด ทั้งนี้ภาพถ่ายดังกล่าวหมายความรวมถึงภาพถ่ายที่ถ่ายในองค์ประกอบที่ใกล้เคียงกัน เช่น การถ่ายภาพในครั้งเดียวกันหลายภาพ การเปลี่ยนองค์ประกอบของภาพเพียงเล็กน้อย การเปลี่ยนภาพจากภาพสีเป็นภาพขาวดำ การคร็อปภาพใหม่ หรือภาพถ่ายที่ถ่ายในองค์ประกอบเดียวกันกับผู้อื่นที่เคยได้รับรางวัลมาแล้วไม่ว่าจากเวทีใดๆ ทั้งนี้ให้ถือเป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการตัดสิน
  9. ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะต้องไม่ส่งภาพถ่ายที่เคยเผยแพร่ในเว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดีย (Social Media) ทุกชนิด รวมไปถึงภาพถ่ายที่ส่งขายอยู่ในคลังภาพ (Stock Photo) ไม่ว่าในประเทศไทยหรือต่างประเทศ (เนื่องจากในปัจจุบันมีการนำภาพถ่ายที่ปรากฏในโลกออนไลน์ไปใช้งานโดยไม่สามารถตรวจสอบได้ สามารถนำไปแบ่งปันกระจายออกไปโดยที่เจ้าของภาพถ่ายอาจไม่รู้ตัว และอาจเกิดกรณีพิพาทการละเมิดลิขสิทธิ์ทำให้เกิดความยุ่งยากกับการประกวด เนื่องจากภาพถ่ายที่ได้รับรางวัลอาจถูกนำไปใช้ในงานต่างๆ ก่อนการตัดสิน)
  10. ผู้ที่ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดต้องรักษาไฟล์ภาพต้นฉบับก่อนการปรับแต่งและภาพหลังการปรับแต่งแล้วในความละเอียดสูงไว้ ในกรณีมีการประท้วงในการทำผิดกติกาและในกรณีที่จะต้องนำภาพถ่ายไปพิมพ์ในขนาดใหญ่
  11. คณะกรรมการตัดสินภาพถ่าย พนักงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และคณะกรรมการบริหารสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไม่มีสิทธิ์ในการส่งภาพถ่ายเข้าประกวดในครั้งนี้
  12. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีสิทธิ์คัดเลือกภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดเพื่อนำไปจัดแสดงในที่ต่างๆ และมีสิทธิ์ในการจัดพิมพ์เผยแพร่ผลงานในสูจิบัตร และเอกสารสิ่งพิมพ์ รวมทั้งสารสนเทศทุกประเภท
  13. ไฟล์ภาพถ่ายทุกไฟล์ที่ส่งเข้าประกวด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะไม่ส่งคืนให้ผู้เข้าร่วมประกวด โดย ททท. มีสิทธิในการเผยแพร่ภาพถ่ายเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมของ ททท. เป็นเวลา ๓ ปี นับจากวันที่ประกาศผลการตัดสินรอบแรก รวมไปถึงมีสิทธิ์นำภาพถ่ายไปจัดพิมพ์สูจิบัตรและเอกสารสิ่งพิมพ์ของ ททท. โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์แก่เจ้าของลิขสิทธิ์ภาพถ่ายนั้นๆ แต่ลิขสิทธิ์ของภาพทุกภาพยังคงเป็นของผู้ถ่ายภาพอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ ททท. จะระบุชื่อเจ้าของผลงานให้ทุกครั้งที่นำภาพถ่ายไปใช้ เมื่อพ้นจากช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว หาก ททท. มีความประสงค์จะใช้ภาพใด ททท. จะติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของภาพก่อนเป็นรายกรณี และจะใช้ภาพเมื่อได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วเท่านั้น ส่วนภาพที่จัดพิมพ์ทุกภาพถือเป็นกรรมสิทธิ์ของ ททท.
  14. หากปรากฏว่าผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดเจตนาฝ่าฝืนกติกาข้อใดข้อหนึ่งที่กำหนดไว้ข้างต้นนี้คณะกรรมการมีอำนาจในการตัดสิทธิ์ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดผู้นั้นโดยมีโทษตั้งแต่การตัดสิทธิ์ในการประกวด การเพิกถอนสิทธ์ในทุกถ้วยรางวัล จนถึงโทษขั้นสูงสุดไม่ให้ส่งภาพเข้าประกวดในทุกกิจกรรมของ ททท. และสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นระยะเวลา ๕ ปี นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอำนวยการได้มีมติตัดสิทธิ์ภาพถ่ายนั้นๆ ทั้งนี้หากผู้ส่งภาพเข้าประกวดที่เจตนากระทำผิดกติกาในภาพถ่ายใดภาพถ่ายหนึ่ง แต่ได้ส่งภาพถ่ายอื่นเข้าร่วมประกวดด้วย แม้ภาพถ่ายเหล่านั้นจะไม่ผิดกติกา ก็จะถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้รับรางวัลใดๆ ด้วย ส่วนข้อผิดพลาดอื่นๆ ที่มิได้เกิดจากเจตนาทุจริต เช่น การกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน การส่งภาพถ่ายผิดขนาดหรืออื่นๆ คณะกรรมการอาจตัดสินให้ภาพถ่ายนั้นเป็นโมฆะตามแต่กรณี
  15. ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดไม่มีสิทธิ์อ้างว่ากระทำผิดเพราะอ่านกติกาไม่ครบถ้วน และการตัดสินของคณะกรรมการ ถือเป็นที่สิ้นสุด

๗.สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
๑. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
www.tourismthailand.org/discoverthainessphotocontest
Facebook Page : www.facebook.com/TAT Photograph Section

๒. สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
www.rpst.or.th/tatphotocontest2015
Email : rpst.info@gmail.com
Facebook Page :www.facebook.com/RSPThailand

วิดีโอแนะนำการสมัครและการส่งภาพถ่าย

ขออภัย เนื่องจากวิดีโอนี้ได้อธิบายจำนวนภาพในการส่งผิด จำนวนภาพที่ส่งได้จำนวน 5ภาพ ตามกติกาเท่านั้น

ประกาศชี้แจงการตัดสินภาพถ่ายโครงการภาพถ่ายแห่งแผ่นดิน

Ann-Banner

ประกาศชี้แจงการตัดสินภาพถ่ายโครงการถ่ายแห่งแผ่นดิน

จากการตัดสินภาพถ่ายโครงการภาพถ่ายแห่งแผ่นดิน ประจำปี 2558 ที่ผ่านมา ในหัวข้อ “ไกลสุดกู่” และหัวข้อ “ตัด” ซึ่งคณะกรรมการได้ทำการพิจารณาภาพถ่ายที่ต้องสงสัยว่าทำผิดกติกา โดยไม่ได้สอบถามไปยังเจ้าของภาพถ่ายก่อนนั้น ส่งผลให้มีภาพถ่ายที่เสียสิทธิ์รวมจำนวน 9 ภาพถ่าย ซึ่งคณะกรรมการอำนวยการพิจารณาแล้ว เห็นสมควรให้หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาทบทวนใหม่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดที่สุดโดยได้ดำเนินการแจ้งไปยังผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ภาพถ่ายทุกท่านเรียบร้อยแล้ว และได้ให้เจ้าของภาพถ่ายทั้ง 9 ภาพดังกล่าวส่งไฟล์ภาพต้นฉบับเพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน พร้อมทั้งสอบถามกระบวนการทำภาพถ่ายแต่ละกรณี ทั้งนี้เพื่อที่จะส่งภาพถ่ายที่พิสูจน์แล้วว่ามิได้ทำผิดกติกาให้คณะกรรมการตัดสินภาพถ่ายใหม่อีกครั้ง

โดยคณะกรรมการจะให้คะแนน 1-4 ในภาพที่ได้รับการพิจารณาใหม่เท่านั้น ไม่ได้นำภาพถ่ายที่ตัดสินแล้วมาให้คะแนนใหม่ และเมื่อได้คะแนนรวมจำนวนเท่าไหร่ ก็จะนำไปเรียงลำดับแทรกเข้าไป และเนื่องจากการตัดสินภาพในหัวข้อที่ผ่านมา ยังมิได้มีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ ดังนั้นจึงสามารถมีการปรับเปลี่ยนผลการประกวดได้

ทั้งนี้ในการตัดสินภาพถ่ายแห่งแผ่นดิน จำนวน 4 หัวข้อที่เหลือ คณะกรรมการจะทำการคัดเลือกภาพไว้ 20 ภาพ และจะเรียงคะแนนภาพตามลำดับ 1-20 ภาพ โดยจะเรียกเจ้าของภาพถ่ายที่มีปัญหากรณีเดียวกันมาชี้แจงก่อนประกาศผลออกไป

สมาคมฯ ยินดีน้อมรับข้อติติง และพร้อมแก้ไขในข้อผิดพลาด และปรับปรุงวิธีการตัดสินให้เป็นธรรมมากยิ่งขึ้นเพื่อให้สมเกียรติแห่งรางวัลถ้วยพระราชทาน

 

จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

ขอเชิญร่วมประกวดภาพถ่ายพิศเจริญเอกรงค์ ปี 2558

PitchareonBanner2_2558

สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอเชิญสมาชิกและช่างภาพที่สนใจทุกท่าน ร่วมส่งภาพประกวดในโครงการ ประกวดภาพถ่ายชิงรางวัล “รังสรรค์ ตันติวงศ์” ในชื่อโครงการ “พิศเจริญเอกรงค์ ประจำปี 2558”

โครงการนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยในการจัดการประกวดในปีแรก ยังมีความสับสนในการสมัครและการส่งภาพ ดังนั้นผู้ที่สนใจส่งภาพเข้าประกวดในครั้งนี้ กรุณาอ่านกติการายละเอียดให้ถี่ถ้วนก่อน เพื่อป้องกันการโดนตัดสิทธิ์ในการประกวด

การจัดประกวดภาพถ่ายโครงการนี้ เกิดขึ้นจากคณะกรรมการบริหารสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ดำริว่า อาจารย์รังสรรค์ตันติวงศ์ เป็นนักถ่ายภาพอาวุโส ผู้มีคุณูปการแก่วงการถ่ายภาพของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง เคยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ถึง 3 สมัย และยังคงดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของสมาคมจนถึงปัจจุบันเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติอาจารย์รังสรรค์ ตันติวงศ์ คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้จัดการประกวดภาพถ่ายชิงรางวัล “รังสรรค์ ตันติวงศ์” ขึ้น เป็นการประกวดประจำปี โดยมุ่งเน้นภาพถ่ายเอกรงค์ในแนว “พิศเจริญ” (Pictorial) เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมผู้ที่รักการถ่ายภาพในแนวทางนี้ ให้มีเวทีประกวดเป็นการเฉพาะ โดยในการประกวดจะมีเพียงรางวัลชนะเลิศเพียงรางวัลเดียวเพื่อให้ภาพที่ได้รับรางวัลเป็นภาพสุดยอดของภาพ “พิศเจริญ” ประจำปีอันจะเป็นเกียรติยศสูงยิ่งสำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลนี้ รางวัลผู้ชนะเลิศ จำนวนเงิน 100,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ

กติกาในการส่งภาพถ่ายเข้าประกวด
เพื่อให้การประกวดภาพถ่ายของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์คงไว้ซึ่งมาตรฐานสูงสุดและต้องการมุ่งเน้นความโปร่งใส ยุติธรรมในการตัดสิน คณะกรรมการจัดการประกวด จึงบัญญัติกติกาที่ผู้ส่งเข้าประกวด “ พิศเจริญเอกรงค์” จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ดังต่อไปนี้

  1. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดสามารถส่งได้ทั้งภาพที่ถ่ายโดยการใช้กล้อง Digital และกล้องบรรจุฟิล์ม ในกรณีที่ใช้กล้องบรรจุฟิล์ม จะต้องนำฟิล์มไปสแกนเป็นไฟล์ภาพดิจิตอลความละเอียดสูง และเปิดกว้างให้ไม่มีการกำหนดอายุของภาพในการประกวดครั้งนี้
  2. ต้องเป็นภาพ เอกรงค์ เท่านั้น ไฟล์ภาพที่ส่งต้องเป็นไฟล์ที่มีขนาดด้านที่สั้นที่สุดของภาพไม่ต่ำกว่า 2500 pixels (Pixel Dimension) หรือหากวัดตามขนาดพิมพ์ด้านที่สั้นที่สุดต้องไม่ต่ำกว่า 10 นิ้ว (Document Dimensions) ที่ความละเอียดไม่ต่ำกว่า 220 ppi (หมายถึงขนาดใหญ่กว่าได้ และความละเอียดสูงกว่าที่กำหนดได้) ในรูปแบบ .jpg เท่านั้น และต้องไม่มีลายน้ำ เครดิตภาพตัวอักษร หรือกราฟิกใดๆ ลงบนภาพ รวมทั้งห้ามเว้นขอบภาพเป็นสีขาวหรือสีใดๆ (หากผิดกติกาข้อนี้จะถูกคัดเลือกออกโดยไม่มียกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น)
  3. สามารถตกแต่งภาพได้อย่างเสรีโดยไม่มีข้อจำกัด
  4. ผู้ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องระบุ ชื่อ-นามสกุลจริง (ไทย-อังกฤษ) ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์อย่างครบถ้วนในใบสมัครที่กำหนดให้ หากผู้ส่งเข้าประกวดเป็นชาวต่างประเทศจะต้องมีที่พำนักอยู่ในประเทศไทยในช่วงตั้งแต่การรับสมัครถึงวันที่ตัดสินรอบสุดท้าย ทั้งนี้ผู้จัดฯ จะยึดข้อมูลการสะกดชื่อ-นามสกุล (ไทย-อังกฤษ) ตามที่ผู้สมัครแต่ละคนระบุมาในการสมัคร
  5. ผู้ที่ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องเป็นผู้ถ่ายภาพนั้นๆ ด้วยตนเอง ห้ามนำภาพของผู้อื่นมาส่งหรือส่งในนามผู้อื่นโดยเด็ดขาด
  6. ผู้ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องตั้งชื่อภาพถ่าย และระบุสถานที่ที่ถ่ายภาพ (ไม่จำกัดสถานที่) และเขียนคำอธิบายแนวความคิดไม่เกิน 2 บรรทัด หากภาพถ่ายใดข้อมูลไม่ครบถ้วน จะถูกตัดสิทธิ์การส่งเข้าประกวด
  7. ผู้เข้าประกวดแต่ละคนสามารถส่งผลงานภาพถ่ายได้ไม่เกิน 5 ภาพ
  8. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดต้องไม่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดใดๆ มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการประกวดในเวทีสาธารณะ หรือการประกวดภายในของสมาคม ชมรม หรือองค์กรอื่นใด ทั้งนี้ภาพถ่ายดังกล่าวหมายรวมถึงภาพที่ถ่ายในองค์ประกอบที่ใกล้เคียงกัน เช่น การถ่ายภาพในครั้งเดียวกันหลายภาพ การเปลี่ยนองค์ประกอบของภาพเพียงเล็กน้อย การเปลี่ยนภาพจากภาพสีเป็นภาพขาวดำ การคร็อปภาพใหม่ หรือภาพถ่ายที่ถ่ายในองค์ประกอบเดียวกันกับผู้อื่นที่เคยได้รับรางวัลมาแล้วไม่ว่าจากเวทีใดๆ ทั้งนี้ให้ถือเป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการตัดสิน
  9. ภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นภาพที่ไม่มีลิขสิทธิ์ผูกพันกับองค์กรใดๆ หรือเป็นภาพที่จำหน่ายใน Stock Photo
  10. ผู้ที่ส่งภาพเข้าประกวดต้องรักษาภาพต้นฉบับไว้ ในกรณีที่คณะกรรมการตัดสินภาพมีข้อสงสัยสามารถเรียกให้ผู้เข้าร่วมประกวดแสดงภาพต้นฉบับได้
  11. คณะกรรมการตัดสินภาพถ่าย และคณะกรรมการบริหารสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไม่มีสิทธิ์ในการส่งภาพถ่ายเข้าประกวดในครั้งนี้
  12. คณะผู้จัดงานมีสิทธิ์คัดเลือกภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดเพื่อนำไปจัดแสดงในที่ต่างๆ และมีสิทธิ์ในการจัดพิมพ์เผยแพร่ผลงานในสูจิบัตร และเอกสารสิ่งพิมพ์ รวมทั้งสารสนเทศทุกประเภท
  13. ไฟล์ภาพจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะผู้จัดงาน แต่ลิขสิทธิ์ของภาพทุกภาพยังคงเป็นของ ผู้ถ่ายภาพอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีสิทธิในการใช้ประโยชน์และเผยแพร่ภาพถ่าย และชิ้นงาน เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ขององค์กร และประชาสัมพันธ์ได้โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์แก่เจ้าของลิขสิทธิ์ภาพถ่าย ทั้งนี้บริษัทฯ จะระบุชื่อเจ้าของผลงานให้ทุกครั้งที่นำภาพถ่ายไปใช้ (ข้อนี้จะปรับเปลี่ยนตามข้อความ Edition ของภาพ)
  14. หากปรากฏว่าผู้ส่งภาพเข้าประกวดเจตนาฝ่าฝืนกติกาข้อใดข้อหนึ่งที่กำหนดไว้ข้างต้นนี้คณะกรรมการอำนวยการมีอำนาจในการตัดสิทธิ์ผู้ส่งภาพเข้าประกวดผู้นั้นไม่ให้ส่งภาพเข้าประกวดในทุกกิจกรรมของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นเวลา 5 ปี ส่วนข้อผิดพลาดอื่นๆ ที่มิได้เกิดจากเจตนาทุจริต เช่น การกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน การส่งภาพผิดขนาดหรืออื่นๆ คณะกรรมการอำนวยการอาจตัดสินให้ภาพนั้นเป็นโมฆะตามแต่กรณี
  15. ผู้ส่งภาพเข้าประกวดไม่มีสิทธิ์อ้างว่ากระทำผิดเพราะอ่านกติกาไม่ครบถ้วน และการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

กำหนดวันส่งภาพ
เปิดรับภาพทางเว็บไซด์ ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 18.00 น.
เปิดรับภาพที่ห้องสมาคม ตั้งแต่วันที่ 3 – 15 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 12.00 – 18.00 น.

วิธีการส่งภาพประกวด มี 2 ช่องทาง
1. การส่งภาพผ่าน Webผู้ที่มีความประสงค์จะส่งภาพเข้าประกวด จะต้องลงทะเบียนสมัครที่ www.rpst.or.th โดยผู้สมัครสามารถสร้างหน้า page เป็นของตัวเอง โดยทุกท่านจะได้รับ Username และ Passwordพร้อมรายละเอียดวิธีการ Upload ภาพ ซึ่งผู้เข้าประกวดสามารถเข้าไปเปลี่ยนภาพ หรือปรับปรุงข้อมูลได้ตลอดเวลาจนกว่าถึงวันสิ้นสุดการส่งภาพไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

(ผู้ที่สมัครใหม่กรุณารอ 48 ชั่วโมงหลังจากสมัคร หลังจากนั้นสามารถเข้าระบบได้เลยโดยไม่ต้องรอ) สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกเว็บของสมาคมเรียบร้อยแล้วสามารถส่งภาพได้เลยโดยทำการ login ด้วย Username ขอตัวท่านเอง

2. การส่งภาพด้วยตนเองที่ห้องสมาคมฯ
ส่งไฟล์ด้วย Flash Drive เท่านั้น

แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อเป็นหลักฐานในการสมัคร
มีค่าใช้จ่ายในการส่งภาพเข้าประกวด 100 บาทต่อภาพ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
คุณกิตติยา เชื้อทอง
โทร. 091-115-7585 เวลา 13.00 – 18.00 น.
หรือส่ง email มาที่
rpst.info@gmail.com

ผลการประกวดโครงการภาพถ่าย France in my memory

FRANCE in my memory

สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์และสมาคมฝรั่งเศส (Alliance Française Thailande)
จัดการประกวดภาพถ่าย France in my memory การประกวดภาพถ่ายครั้งนี้มุ่งหวังเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งการแข่งขันถ่ายภาพ และกรรมการได้ทำการตัดสินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีผลการตัดสินดังนี้

รางวัลชนะเลิศ ได้รับรางวัลเงินสด 50,000 บาท พร้อมตั๋วเครื่องบินไป-กลับฝรั่งเศสโดยสายการบิน AIR FRANCE
คุณพรรัก เชาวนโยธิน
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่หนึ่ง  ได้รับรางวัลเงินสด  30,000 บาท
Korrakot Kulkraisri
รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่สอง  ได้รับรางวัลเงินสด 20,000 บาท
วรฤทธิ์ อนันต์สรรักษ์
รางวัลชมเชย จำนวน 20 รางวัล ได้รับรางวัลเงินสด รางวัลละ 5,000 บาท
นภสร บินซุเกอร์
ศีลวดี ศรีสนธิ
Kittinan Klusawas
ภัทรพงศ์ ชุณหรัศมิ์
นิทรรศ สินวัฒนกุล
รุ่งอรุณ ตียานุกูลมงคล
ศุภชัย เกศการุณกุล
สรสิริ ศึกรักษา
วรฤทธิ์ อนันต์สรรักษ์ (2 รางวัล)
สรสิริ ศึกรักษา
Nakrob Moonmanas
ภิรักษ์ อนุรักษ์เยาวชน
สุนิสา ศรีปริวาทิน
พรรัก เชาวนโยธิน
พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์
Jirapat Siridhasanakul
ภัทรพล ตุลารักษ์
วนาลี กล่อมใจ
ปณิธาน ฟักสีม่วง
สามารถชมภาพทั้งหมดของผู้ที่ได้รับรางวัลที่ Facebook ของสมาคม
https://www.facebook.com/RPSThailand
รายชื่อกรรมการตัดสิน
คุณดาว วาสิกศิริ
คุณมานิต ศรีวานิชภูมิ
คุณเล็ก เกียรติศิริขจร
คุณธัชชะ รัตนศักดิ์
คุณอุมาวร วินด์เซอร์ไคลฟ์
คุณอุรชา จักรคชาพล
Miss MARINE ILHARRAGORRY

ประกาศผลการประกวดภาพ Thai Fight 2014

ThaiFight

สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ Thai Fight และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดการประกวดภาพถ่าย Thai Fight Spirit Photo Contest 2014 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมภาพที่สามารถสื่อความหมายขอกิจกรรม Thai Fight สำหรับใช้ในกิจการของ Thai Fight และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยมีช่างภาพที่ผ่านรอบคัดเลือก จำนวน 20 ท่านเข้าร่วมถ่ายภาพแข่งขันการชกมวยไทยไฟท์ ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ และที่ เอเชียทีค ซึ่งการแข่งขันถ่ายภาพ และกรรมการได้ทำการตัดสินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีผลการตัดสินดังนี้

รางวัลที่ 1 เงินรางวัลจำนวน 80,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ
คุณอรรถพล จงมีรัก
รางวัลที่ 2 เงินรางวัลจำนวน 40,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ
คุณวรรณพงษ์ สุรโรจน์ประจักษ์
รางวัลที่ 3 เงินรางวัลจำนวน 20,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ
คุณพัชร์ แสนศรี
สำหรับผู้ชนะทั้ง 3 รางวัล จะได้ไปถ่ายภาพการแข่งขันไทยไฟท์ในต่างประเทศ (จะเป็นประเทศไหนขึ้นอยู่กับตารางการแข่งขันของไทยไฟท์)

รางวัลชมเชย เงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ (จำนวน 5 รางวัล)

  • คุณจิรวัฒน์ ผลเพิ่มพูล
  • คุณทวี แซ่อู๋
  • คุณธนโชค ภูมิศิริชโย
  • คุณมนูญ พงศ์พันธุ์พัฒน์
  • แพทย์หญิงวรรนธนี อภิวัฒนเสวี

รางวัล Popular Vote เงินรางวัลจำนวน 5,000 บาท (จำนวน 1 รางวัล)

  • คุณฑิฆัมพร เสนีย์วาสน์

สามารถชมภาพทั้งหมดของผู้ที่ได้รับรางวัลที่ Facebook ของสมาคม
https://www.facebook.com/RPSThailand

 

รายชื่อคณะกรรมการตัดสิน
Thai Fight Spirit Photo Contest 2014
ผู้แทนจากสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
คุณนิติกร กรัยวิเชียร – นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
คุณขจร พีรกิจ – กรรมการบริหารสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
คุณธัชชะ รัตนศักดิ์ – เลขาธิการสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ผู้แทนจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
คุณวิเชฐ ตันติวานิช – ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
คุณสุรพล อุทินทุ – ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
ผู้แทนจากบริษัท Thai Fight จำกัด
คุณนพพร  วาทิน  –  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยไฟท์ จำกัด
คุณอนัฆ  นวราช  –  ช่างภาพอิสระ และอาจารย์พิเศษวิชาถ่ายภาพ มหาวิทยาลัยศิลปากร
ช่างภาพสื่อมวลชนสายกีฬา
คุณไพฑูรย์  ชุติมากรกุล – นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย
คุณพีระพันธ์ แผนดี – ช่างภาพกีฬา นสพ.เดลินิวส์

thaifightContest_0005

กิจกรรมการถ่ายภาพและอบรมนอกสถานที่ ครั้งที่ 6/2557-2558

RPST Photo Trip 06

กิจกรรมการถ่ายภาพและอบรมนอกสถานที่ ครั้งที่ 6/2557-2558
จังหวัดนครศรีธรรมราช-พัทลุง วันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ 2558 (3วัน 2คืน)

“เยือนถิ่นใต้เมืองประวัติศาสตร์…ธรรมชาติงดงามวัฒนธรรมเลื่องลือ”

“สืบทอดศิลปะการแกะหนังตะลุงอันเลื่องชื่อของสุชาติ ทรัพย์สินศิลปินแห่งชาติ…..
นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร พร้อมถ่ายการแสดงระบำนารีศรีนครกับสถาปัตยกรรมท่ามกลางแสงประทีปสว่างไสว…เพลิดเพลินกับวิถีชาวประมงที่อ่าวซันไรท์ในยามเช้า…สัมผัสชีวิตนักเรียนมุสลิมในโรงเรียนปอเนาะ…ร่วมถ่ายทอดศิลปะการแสดงรำมโนราห์มรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชาวใต้… เก็บแสงเย็นในบรรยากาศท้องทุ่งนาและควายจำนวนมากที่คอกควายลุงไข่…ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่คลองปากประ ทะลสาบสงขลาในเขตจังหวัดพัทลุง ล่องเรือสัมผัสวิถีการทำประมงด้วยการยกยอที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์…ถ่ายภาพกีฬาพื้น
บ้านและภูมิปัญญาทางการเกษตรของไทย”

โดยวิทยากรประจำทริป บุณฐไชย ไชยวิรุณเจริญ, พลัฏฐ์ ไชยพิทักษ์กูล พร้อมสต๊าฟสมาคมฯ
และวิทยากรรับเชิญ นพ.รังสิต ทองสมัคร (ศิลปินนักถ่ายภาพจังหวัดนครศรีธรรมราช)

เปิดรับสมัคร 40 ท่าน ทางสมาคมฯจะอัพเดตรายชื่อทาง Facebook เฉพาะผู้ที่โอนเงินแล้วเท่านั้น

ค่าใช้จ่ายในการอบรมทริปจังหวัดนครศรีธรรมราช-พัทลุง
1. สมาชิกสมาคมฯ 8,900 บาท (รวมค่าภาษี Vat 7% และภาษีรายได้ 2%)
2. บุคคลทั่วไป 9,400 บาท (สามารถสมัครสมาชิกและใช้สิทธิ์ลดราคาได้ทันที)
กรณีสมาชิกท่านใดต้องการพักเดี่ยว กรุณาจ่ายเพิ่ม 1,400 บาท (รวม 2 คืน)

หมายเหตุ
1.ค่าใช้จ่ายดังกล่าวรวม ค่าอาหาร 9 มื้อ, ค่าอาหารว่างและน้ำดื่ม, ค่าที่พักโรงแรมทวินโลตัส 2 คืน (พักห้องละ 2 ท่าน), ค่าเดินทางโดยรถบัสปรับอากาศเฉพาะการเดินทางจังหวัดนครศรีธรรมราช-พัทลุง , ค่าเรือ, ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่, ค่าจัดแบบทั้งหมด, ค่าประกันภัยอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง, ค่าภาษี vat 7 % และค่าภาษีเงินได้ส่วนบุคคล 2 %
2.ค่าธรรมเนียมรายปีในการเป็นสมาชิกสมาคมฯ ราย 1 ปี 500 บาท ราย 3 ปี 1,200 บาท และตลอดชีพ 10,000 บาท และค่าธรรมเนียมแรกเข้า 50 บาทสำหรับสมาชิกใหม่
3.สามารถสมัครสมาชิกสมาคมฯ และใช้สิทธิรับส่วนลดได้ทันที
4. ค่าใช้จ่ายดังกล่าว *ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน หรือค่ารถในการเดินทางไปจังหวัดนครศรีธรรมราช* (หากสมาชิกต้องการให้ทางสมาคมฯจองตั๋วเครื่องบินให้ กรุณาแจ้งมาพร้อมการสมัคร)
5.สมาชิกท่านที่สนใจต้องการร่วมทริป กรุณารีบตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกในช่วงนี้ได้ คาดว่ายิ่งเวลานานไปตั๋วเครื่องบินอาจมีราคาแพงหรือที่นั่งของสายการบินไม่เพียงพอได้ ซึ่งสมาชิกอาจจองด้วยตนเองหรือให้ทางสมาคมฯจองให้ก็ได้
6.วัตถุประสงค์ของการจัดทริปเพื่อเพิ่มความรู้และฝึกทักษะความสามารถด้านการถ่ายภาพให้แก่สมาชิกและบุคคลทั่วไปที่สนใจการถ่ายภาพ การขออนุญาตองค์กรสถานที่และบุคคลที่เป็นแบบ ติดต่อโดยในนามสมาคมฯ ฉะนั้นเพื่อภาพลักษณ์ของสมาคมฯ นอกจากการส่งประกวดภาพแล้ว ขอสงวนสิทธิ์ห้ามทุกท่านนำภาพถ่ายหรือวีดีโอในทริปไปใช้ทางการค้าหรือในเชิงพาณิชย์ทุกกรณี

ขั้นตอนการสมัครเข้าร่วมกิจกรรม
1. โอนเงิน
โอนเงินค่าอบรม เข้าชื่อบัญชี “สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์”
-ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บัญชีออมทรัพย์ สาขาหัวหมาก เลขที่บัญชี 044-2-72015-1
-ธนาคารกสิกรไทย บัญชีออมทรัพย์ สาขาคลองจั่น เลขที่บัญชี 040-2-33266-4
2. ส่งสลิปใบโอนเงิน
กรุณาสแกนหรือถ่ายภาพสลิปใบโอนเงินแล้วส่งมาที่อีเมล์ rpst_trip@hotmail.com และพร้อมเก็บหลักฐานไว้หากมีเหตุขัดข้อง
3. สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับทริปเพิ่มเติม
กรุณาติดต่อ คุณศศิรินทร์ ขาวเขียว (เป้) 087-076-4564, คุณสรยา คงรักษา (แคร์) 091-115-7585 Fax : 02-785-5099

หมายเหตุเพิ่มเติม
1.โปรดระบุว่าเป็นสมาชิก “มือใหม่” ในกรณีที่ท่านต้องการให้ทางทีมงานจัดกลุ่มแยกดูแลพิเศษสำหรับท่าน โดยเฉพาะการดูแลทางด้านพื้นฐานการถ่ายภาพกับ ทีม Staff
2.กรุณาส่งไฟล์ภาพถ่ายหน้าตรงแบบสบายๆ เขียนชื่อ-นามสกุล พร้อมเบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ เพื่อสำหรับใช้ทำบัตรในการเข้าร่วมกิจกรรมถ่ายภาพนอกสถานที่ ทางอีเมล์ rpst_trip@hotmail.com (สมาชิกที่เคยส่งมาแล้วไม่ต้องส่งอีก หรือถ้าเคยส่งแล้วต้องการเปลี่ยนรูปก็สามารถส่งมาใหม่ได้)
3.สมาชิกท่านใดต้องการใบเสร็จเต็มรูปแบบ กรุณาส่งชื่อ-ที่อยู่ มาที่อีเมล์ rpst_trip@hotmail.com

กำหนดการวันเดินทาง
วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558
ถ่ายภาพการทำหนังตะลุง, -ถ่ายภาพวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารกับความงามช่วงทไวไลท์

เวลา 08.30 น. นัดพบกัน ณ “ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช” เดินทางโดยรถบัสปรับอากาศ พร้อมแนะนำสต๊าฟประจำกลุ่มและสมาชิกในกลุ่มต่างๆ รวมถึงแจกโจทย์หัวข้อกิจกรรมในทริป
09.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่ร้านอาหาร “โกปี๊” ร้านดังประจำเมืองคอน ในบรรยากาศเรียบง่ายสไตล์คลาสสิค
10.30 น. เดินทางถึง “บ้านหนังตะลุงสุชาติ ทรัพย์สิน” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (การแสดงพื้นบ้าน) ปี 2549 ถ่ายภาพการแกะและสาธิตการเล่นหนังตะลุง ชมพิพิธภัณฑ์การจัดแสดงตัวหนังตะลุง มีทั้งเทวดายักษ์เจ้าเมืองตัวพระตัวนางต่างๆ
12.00 น. รับประทานอาหารเที่ยงที่ร้าน “ขนมจีนเมืองคอน” ร้านขนมจีนเส้นสดขึ้นชื่อของเมืองนครฯที่มีน้ำยาต่างๆให้เลือกมากมาย ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง
13.30 น. เดินทางถึง “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” ว่าที่มรดกโลกแห่งใหม่ของไทย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง พระอารามหลวงชั้นเอก สมาชิกไหว้สักการะนมัสการพระบรมธาตุฯเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต จากนั้นอิสระกับการถ่ายภาพตามโจทย์ในทริปกับสถานที่สำคัญต่างๆ บริเวณรอบๆ วัดมหาธาตุฯ  เช่น  วัดพระนคร, วัดชายคลอง, วัดหน้าพระลาน, วัดหน้าพระบรมธาตุ, วัดสระเรียง
16.30 น. ถ่ายภาพพอร์ตเทรด “ชุดนารีศรีนคร” กับสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
17.30 น. รับประทานอาหารว่าง “โรตีเจ้าอร่อย”
18.00 น. ถ่ายภาพแสงทไวไลท์กับการแสดง “ระบำนารีศรีนคร” ในบรรยากาศสว่างไสวกับแสงประทีปรอบบริเวณวัดเป็นฉากหลังที่สวยงาม
20.00 น. รับประทานอาหารค่ำที่ร้านอาหาร “ชาวเรือ” อาหารปักษ์ใต้แท้ๆในบรรยากาศร่มรื่นคล้ายกลางป่าใหญ่
21.30 น. กลับถึงโรงแรมที่พัก นำสัมภาระ Check In เข้าที่พัก “โรงแรมทวินโลตัส” พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558
ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่อ่าวซันไรท์, -ถ่ายภาพนักเรียนมุสลิมในโรงเรียนปอเนาะ, -ถ่ายภาพมโนราห์, ถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกกับคอกควายขนาดใหญ่

04.30 น. พบกันที่ล๊อบบี้หน้าโรงแรม
05.00 น. เดินทางถึง “อ่าวซันไรท์” บ้านในถุ้ง อ.ท่าศาลา ถ่ายภาพวิถีชีวิตชาวประมง
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าริมชายหาด
09.30 น. ถ่ายภาพนักเรียนมุสลิมใน “โรงเรียนปอเนาะ”
12.00 น. รับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านอาหาร “ท่าศาลาซีฟู้ด” อาหารทะเลสดๆที่ขึ้นชื่อของอำเภอท่าศาลา ในบรรยากาศเรียบง่าย
13.30 น. ถ่ายภาพศิลปะการแสดง “มโนราห์” มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงและสืบทอดกันต่อๆมาของชาวใต้ เริ่มตั้งแต่การเขียนหน้า, การแต่งกาย, การรำ, การแสดง ในบรรยากาศบ้านท่านขุนโบราณ
16.30 น. ถ่ายภาพแสงเย็นกับควายจำนวนมากที่ “คอกควาย ลุงไข่”
18.00 น. พร้อมกันที่รถ เดินทางกลับโรงแรมที่พัก
18.30 น. กลับถึงโรงแรมที่พัก
19.00 น. พร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม พร้อมโหลดภาพโจทย์ในทริปคนละ 3 ภาพ ร่วมสังสรรค์พร้อมรับประทานอาหารโดยหลังจากรับประทานอาหารจะมีการมอบรางวัลให้กับสมาชิกที่ชนะการประกวดภาพถ่ายในทริปครั้งที่ 5/2557-2558 ทริปเชียงรายที่ผ่านมา
20.30 น. ตัดสินภาพถ่ายประเภทหัวข้อ “โจทย์ในทริป 3 ภาพ” โดยกรรมการตัดสินภาพจะทำการคัดภาพเข้ารอบ 25-30 เปอร์เซ็นต์ของภาพที่ส่งมาทั้งหมด ทุกภาพที่เข้ารอบจะได้รับคะแนนสะสมภาพละ 1 คะแนน และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้สมาชิกได้ฝึกฝนในการใช้สมาธิและพัฒนามุมมอง โดยในการประกวดภาพถ่ายครั้งนี้จะมีความพิเศษคือ ภาพของท่านใดที่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายหรือได้รับ Accept จำนวน 1-3 ภาพ จะได้รับของที่ระลึกจากบริษัท บิ๊กคาเมร่า จำกัด
21.30 น. พักผ่อนเตรียมความพร้อมสำหรับวันรุ่งขึ้น

วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2558
ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่ปากประ, -ชมทะเลน้อย, –ถ่ายภาพกีฬาพื้นบ้านการเลี้ยงไก่ชน

04.00 น. พบกันที่ล๊อบบี้หน้าโรงแรม
05.30 น. ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ณ “คลองปากประ” ทะเลสาบสงขลาในเขตจังหวัดพัทลุง ล่องเรือเพื่อชมความงามและสัมผัสวิถีชีวิตการทำประมงของชาวปากประ โดยการยกยอที่มีลักษณะใหญ่เด่นและเป็นเอกลักษณ์ มีความแปลกแตกต่างไปจากยอที่เคยพบเห็นโดยทั่วไป
08.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร “Wetland Camp” ในบรรยากาศบ้านชายเลสีสันแห่งธรรมชาติ
09.30 น. แวะเที่ยวชม “ทะเลน้อย” ทะเลสาบน้ำจืด อ.ควนขนุน จังหวัดพัทลุง
10.00 น. เดินทางกลับจังหวัดนครศรีธรรมราช พักผ่อนนอนบนรถหรือวิจารณ์ภาพโจทย์ในทริป
11.30 น. ถึงโรงแรม เก็บสัมภาระ Check out
12.30 น. พร้อมกันที่รถ เดินทางออกจากโรงแรม
13.00 น. รับประทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคาร “ครัวอันดามัน” ร้านอาหารใหญ่ชื่อดังของเมืองนครฯ
โดยหลังจากรับประทานอาหาร จะมีการมอบของที่ระลึกสำหรับผู้ที่ได้ภาพผ่านเข้ารอบสุดท้ายจากโจทย์ในทริป 3 ภาพ สนับสนุนโดยบริษัท บิ๊กคาเมร่า จำกัด
15.00 น. ถ่ายภาพ “ไก่ชน” กีฬาพื้นบ้านและภูมิปัญญาด้านการเกษตร สาธิตวิธีการเลี้ยงให้สุขภาพแข็งแรง โดยเริ่มจากการลูบน้ำ การตากแดด การลองขมิ้น การซ้อม จนถึงการชนจริง
17.00 น. รับประทานอาหารเย็นที่ร้าน “ครัวนายหนัง”
18.30 น. รถบัสมาส่ง ณ “ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช” แยกย้ายกันกลับกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ

หมายเหตุ : กำหนดการอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพภูมิอากาศและความเหมาะสม

********************************************************************************************

กำหนดการวันส่งภาพและวันตัดสินภาพประกวดทริปจังหวัดนครศรีธรรมราช-พัทลุง
วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558
หมดเขตส่งภาพ

วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2558
เริ่มตัดสินเวลา 13.00 น. การตัดสินภาพจะทำการตัดสินแบบเปิดเผย ณ RBS ถนนสุคนธสวัสดิ์ เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
15.00 น. รับประทานอาหารว่าง
16.00 น. ประกาศผลการประกวดภาพถ่าย พร้อมรับคำแนะนำและวิจารณ์จากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
17.00 น. สิ้นสุดการประกวดภาพและวิจารณ์

วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558
ประกาศผลทางเว็ปไซด์สมาคมฯ www.rpst.or.th และ Facebook สมาคมฯ

รายการสามัญประจำทริป
1.Memory Cards จำนวนเต็มพิกัด (ยืมเพื่อนๆถ้าจำเป็น) หรือฟิล์มหลายๆ
2.ตรวจสอบถ่าน ต้องเต็มเท่านั้น อุปกรณ์อื่นๆ พร้อม …ขาตั้งกล้อง+สายลั่นชัตเตอร์
3.หมวกกันแดด หรือ/และทาครีมกันแดด
4.แต่งกายตามสบาย
5.ข้าวของจำเป็นประจำตัว สำหรับพัก 2 คืน + ของใช้สำหรับธุระส่วนตัวแบบเร่งด่วนพร้อมใช้ก่อน
6.เลนส์ ช่วงต่างๆ ครบช่วง เต็มพิกัด
7.เหมือนเดิมครับ กล้องครับ อย่าลืมกล้อง ….
8.หลักฐานการชำระเงิน
9.เสื้อกันลม กันหนาว
10.แท่นชาร์ตถ่านกล้อง ปลั้ก 3 ตาหรือสายพ่วงเผื่อมือถือ และอุปกรณ์ที่ต้องชาร์ตไฟ (ยกเว้นคนถ่าย)
11.คู่มือกล้อง (สำหรับมือใหม่ ถึงใหม่มาก) ถ่ายเอกสารหรือนำคู่มือกล้องติดตัวไปด้วย
12.สายต่อพ่วงกล้องกับคอมพิวเตอร์ หรือ Card Reader พร้อมสายต่อไปยังคอมพิวเตอร์ เนื่องจากจะต้องใช้ในการ Load ภาพ ขณะที่ยังอยู่ในทริป
13.ฟิลเตอร์ C-PL สำหรับถ่ายภาพวิวทิวทัศน์
14.ฟิลเตอร์ ND หรือกราดูเอท ครึ่งซีก สำหรับถ่ายแสงเช้าพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก
15.ไฟฉาย

รายชื่อวิทยากรทริปจังหวัดนครศรีธรรมราช-พัทลุง
01.บุณฐไชย ไชยวิรุณเจริญ
02.พลัฏฐ์ ไชยพิทักษ์กูล
03.นพ.รังสิต ทองสมัคร

รายชื่อสต๊าฟทริปจังหวัดนครศรีธรรมราช-พัทลุง
01.สมศักดิ์ พัฒนพิฑูรย์
02.สัญชัย ลุงรุ่ง
03.ภูมิพัฒน์ ลิ้มสมบัติตระการ
04.จิรวัฒน์ พึ่งสมวงศ์
05.ไพฑูรย์ เพ็ชรศิริ
06.นพพร อัจฉริยประภา
07.นริศ เกตุอำพันธ์
08.กิติ กิตติพงศ์สถาพร
09.ปูรณ์ภัสสร กิจจินดารักษ์
10.สรยา คงรักษา
11.อริศรา เจษฎาพงศ์ภักดี
12.กษิดิศ แย้มสุนทร
13.สถิต ขาวผ่อง

ปรับปรุงกติกาโครงการประกวดภาพถ่ายแห่งแผ่นดิน ประจำปี 2558

RPST_Announcement

ด้วยมีผู้วิพากษ์วิจารณ์และทักท้วงมายังสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นจำนวนมากว่ากติกาในการส่งภาพถ่ายเข้าประกวดในโครงการภาพถ่ายแห่งแผ่นดินในข้อที่ 13 มีข้อความที่สร้างความไม่สบายใจให้ผู้ส่งภาพเข้าประกวด เนื่องจากเป็นการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทผู้สนับสนุนสามารถเอาเปรียบผู้ส่งภาพเข้าประกวดโดยการนำภาพไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ให้เจ้าของภาพนั้น สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอชี้แจงดังต่อไปนี้

  1. บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) อยู่ในฐานะของเจ้าภาพผู้ร่วมจัดงานภาพถ่ายแห่งแผ่นดินร่วมกับสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งแต่ครั้งที่ 1 จนถึงปัจจุบัน มิได้เพียงอยู่ในฐานะผู้สนับสนุนหรือสปอนเซอร์ของโครงการเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติของการประกวดถ่ายภาพที่องค์กรผู้จัดสามารถนำภาพที่ส่งเข้าประกวดไปใช้ในกิจการประชาสัมพันธ์ขององค์กรได้โดยถูกต้องและชอบธรรม
  2. ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ไม่เคยนำภาพที่ส่งเข้าประกวดไปใช้ในเชิงพาณิชย์โดยไม่ขออนุญาตเจ้าของผลงานเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เคยมีหลายกรณีที่บริษัทติดต่อขอใช้ผลงานจากเจ้าของภาพเพื่อการพาณิชย์ โดยการเสนอค่าตอบแทนอย่างยุติธรรม และด้วยความเต็มใจของเจ้าของภาพ หากเจ้าของภาพไม่เต็มใจ บริษัทก็จะไม่ใช้ภาพนั้นเป็นอันขาด
  3. ลักษณะของการใช้ภาพเพื่อการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของบริษัทที่เคยปฏิบัติมา มีเพียงกรณีนำมาใช้ประกอบหน้าโฆษณาในนิตยสารต่างๆ หรือในรายงานประจำปีของบริษัท ซึ่งข้อความที่ประกอบภาพนั้น จะมีเพียงการลงภาพดังกล่าว พร้อมข้อมูลของภาพเช่นชื่อเจ้าของภาพ ชื่อภาพ และ รางวัลที่ได้รับ โดยกล่าวถึงการประกวดภาพในโครงการภาพถ่ายแห่งแผ่นดินเท่านั้น ไม่เคยมีการสอดแทรกสินค้า หรือการชักชวนให้ซื้อสินค้าของบริษัทอยู่เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่มีวัตถุประสงค์ในการช่วยเผยแพร่กิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมนี้เป็นสำคัญ
  4. ในข้อความที่ปรากฏในกติกาที่ระบุไว้เช่นนั้น มีวัตถุประสงค์เพียงการป้องกันไม่ให้เกิดการฟ้องร้องดำเนินคดีกับทั้งสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในกรณีใดๆที่มีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการประกวด เพราะหากไม่ประกาศเช่นนี้แล้ว ทั้งสมาคมฯ และ บริษัทฯ ก็จะไม่สามารถประกาศผลหรือเผยแพร่ภาพทั้งทางเวปไซท์หรือสื่ออื่นใด รวมไปถึงการจัดแสดงภาพในนิทรรศการใดๆได้เลย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้ทราบข้อวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวแล้ว บริษัทฯได้แจ้งมายังสมาคมฯว่าไม่ต้องการให้มีการแปรเจตนารมณ์ของบริษัทไปในทางที่ผิดว่าบริษัทจะมาตักตวงผลประโยชน์จากการนี้ จึงขอให้สมาคมนำชื่อบริษัทฯ ออกจากกติกาการประกวดข้อ 13 เพื่อให้เกิดความสบายใจแก่ทุกฝ่าย ดังนั้น สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์จึงได้เปลี่ยนแปลงข้อความในกติกาข้อ 13 ใหม่รวมทั้งปรับปรุงข้อความให้ชัดเจนรัดกุมยิ่งขึ้น โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปดังต่อไปนี้

13. ไฟล์ภาพถ่ายทุกไฟล์ที่ส่งเข้าประกวดสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะไม่ส่งคืนให้ผู้เข้าร่วมประกวด สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์มีสิทธิในการเผยแพร่ภาพถ่ายเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมของสมาคมฯ เป็นเวลา 1 ปีนับจากวันที่ประกาศผลการตัดสินรอบแรก รวมไปถึงมีสิทธิ์จัดพิมพ์สูจิบัตรงานภาพถ่ายแห่งแผ่นดินเพื่อแจกจ่ายและจำหน่ายได้ โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์แก่เจ้าของลิขสิทธิ์ภาพถ่ายนั้นๆ แต่ลิขสิทธิ์ของภาพทุกภาพยังคงเป็นของ ผู้ถ่ายภาพอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้สมาคมฯ จะระบุชื่อเจ้าของผลงานให้ทุกครั้งที่นำภาพถ่ายไปใช้ เมื่อพ้นจากช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว หากสมาคมฯมีความประสงค์จะใช้ภาพใด สมาคมจะติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของภาพก่อนเป็นรายกรณี และจะใช้ภาพเมื่อได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วเท่านั้น ส่วนภาพที่จัดพิมพ์เพื่อแสดงนิทรรศการภาพถ่ายแห่งแผ่นดินทุกภาพถือเป็นกรรมสิทธิ์ของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

 

สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

29 ธันวาคม 2557

 

รายละเอียดของโครงการ http://www.rpst.or.th/2015photokingdom/

เปิดให้ส่งภาพผ่านระบบออนไลน์ในวันที่ 5 มกราคม 2558

กิจกรรม One Shot Knockout ครั้งที่ 22

BANNER_oneShot_france

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม 2557 เวลา 9.00 น.
ณ ห้องออดิธอเรี่ยม สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ

179 ถนนวิทยุ, แขวงลุมพินี, เขตปทุมวัน, กรุงเทพ 10330

กิจกรรม RPST One Shot Knockout เป็นกิจกรรมหนึ่งของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ได้จัดขึ้นติดต่อกันมา 21 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 22 และในการจัดครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ จัดให้มีกิจกรรมนี้ขึ้นเป็นการส่งท้ายปี 2557

กำหนดการ

09.00 น. ลงทะเบียน และรับโจทย์การแข่งขันเริ่มถ่ายภาพตามโจทย์ที่ได้รับ
13.00 น. ส่งภาพที่ห้องออดิธอเรี่ยม สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ
14.00 น. เริ่มตัดสินภาพ ณ ห้องออดิธอเรี่ยม ชั้น 1
16.00 น. ประกาศผลและมอบรางวัล

กติกาการแข่งขัน

  1. ภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นภาพที่ผู้เข้าแข่งขันถ่ายในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น
  2. รูปแบบของไฟล์ภาพที่จะส่งให้ใช้เป็นไฟล์ .jpg เท่านั้น
  3. สามารถใช้กล้องถ่ายภาพได้ทุกชนิด ไม่กำหนดขนาด และต้องเป็นภาพที่กดชัตเตอร์เพียงครั้งเดียว ไม่สามารถใช้คำสั่ง Panorama จากความสามารถของกล้อง หรือ Appใน Device ได้
  4. สามารถใช้โปรแกรมที่ติดมากับกล้องตกแต่งได้เต็มที่ (สามารถตัดส่วนภาพได้) หรือในกรณีที่ใช้ Smart Phone, Tablet ต้องใช้ Application ที่จะตกแต่งถ่ายภาพเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ใช้ App ตกแต่งภาพที่สามารถลบหรือเคลื่อนย้ายวัตถุในภาพได้
  5. คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นเด็ดขาด

รางวัลการแข่งขัน

  • รางวัลที่ 1 กล้องสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy K Zoom ซูมได้ถึง 10 เท่า ความละเอียด 20.7 Megapixel มูลค่า 15,900 บาท สนับสนุนโดย บริษัท บิ๊กคาเมร่า จำกัด
  • รางวัลที่ 2 เครื่องพิมพ์รูปภาพขนาดพกพา Fuji instax SHARE SP-1 พร้อมฟิล์ม instax mini 1 กล่อง มูลค่า 5,990+270 สนับสนุนโดยบริษัท บิ๊กคาเมร่า จำกัด
  • รางวัลที่ 3 กล้องติดรถยนต์ Transcend DrivePro 200, Wi-Fii FullHD มูลค่า 4,950 บาทสนับสนุนโดยบริษัท บิ๊กคาเมร่า จำกัด
  • รางวัลชมเชย หนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เล่มล่าสุด “อันมีทิพเนตรส่องไป” หนังสืออันทรงคุณค่ามูลค่า 900 บาท 10 รางวัล

วิธีสมัครเข้าร่วมกิจกรรม

  1. กิจกรรมนี้เปิดให้เฉพาะสมาชิกของสมาคมเท่านั้น กรุณาสมัครสมาชิกสมาคมที่นี่ http://www.rpst.or.th/register_member.php  (กรอกใบสมัครก่อนแล้วชำระเงินที่หน้างานได้)
  2. สมัครเข้าร่วมกิจกรรมโดยสมัครที่นี่ http://www.rpst.or.th/system/public/  (สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมกิจกรรมผ่านเว็บ)
  3. เมื่อมีบัญชีเข้าร่วมกิจกรรมผ่านเว็บของสมาคมเรียบร้อยแล้ว กรุณา login ด้วย User Name และ Password แล้วคลิกเข้าร่วมกิจกรรมได้ทันที ที่นี่ คลิก
  4. รับจำนวนจำกัด 100 คนเท่านั้น

แผนที่

AFT-map

 

ดาวน์โหลดแผนที่ได้ที่นี่

http://afthailande.org/fileadmin/user_upload/pdf/AFT-map.pdf

โครงการภาพถ่ายแห่งแผ่นดินประจำปี 2558

PhotoRoyal58

สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดโครงการประกวดภาพถ่ายแห่งแผ่นดิน ประจำปี 2558 (การประกวดภาพถ่ายทั่วประเทศ ชิงถ้วยพระราชทาน ครั้งที่ 28)

โดยในปีนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานหัวข้อในการประกวดภาพถ่ายเพื่อชิงถ้วยพระราชทานทั้ง 6 ถ้วย อันนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ อย่างหาที่สุดไม่ได้

การประกวดภาพถ่ายทั่วประเทศ ชิงถ้วยพระราชทานครั้งที่ 28 นี้จัดให้มีการประกวดภาพถ่าย 6 หัวข้อ ตามแต่ละถ้วยพระราชทาน ดังนี้

  • ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหัวข้อ “ไกลสุดกู่”

ในหัวข้อนี้ภาพถ่ายที่ส่งต้องเป็นไฟล์ภาพเอกรงค์ (Monochrome) เท่านั้น

  • ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หัวข้อ “ตัด”

ในหัวข้อนี้ภาพถ่ายที่ส่งต้องเป็นไฟล์ภาพสีเท่านั้น

  • ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หัวข้อ “บาน”

ในหัวข้อนี้ภาพถ่ายที่ส่งจะเป็นไฟล์ภาพสี หรือเอกรงค์ก็ได้

  • ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หัวข้อ “กลอน”

ในหัวข้อนี้ภาพถ่ายที่ส่งจะเป็นไฟล์ภาพสี หรือเอกรงค์ก็ได้

  • ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี หัวข้อ “ดีด” 

ในหัวข้อนี้ภาพถ่ายที่ส่งจะเป็นไฟล์ภาพสี หรือเอกรงค์ก็ได้

  •  ถ้วยประทานทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี หัวข้อ “กลัว” 

ในหัวข้อนี้ภาพถ่ายที่ส่งจะเป็นไฟล์ภาพสี หรือเอกรงค์ก็ได้ และเฉพาะหัวข้อนี้สามารถตกแต่งภาพและใช้เทคนิคได้อย่างเสรี

วัตถุประสงค์

  • เพื่อสานต่อโครงการภาพถ่ายแห่งแผ่นดิน อันเป็นการส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมในวงการถ่ายภาพ ซึ่งจะสร้างสีสันและแรงบันดาลใจแก่ผู้สนใจการถ่ายภาพทุกระดับ
  • เพื่อเปิดโอกาสให้นักถ่ายภาพและประชาชนโดยทั่วไปที่สนใจในการถ่ายภาพได้มีเวทีที่จะแสดงออกถึงความสามารถและเผยแพร่ผลงานสู่สายตาสาธารณชน
  • มุ่งเน้นให้นักถ่ายภาพสร้างสรรค์ผลงานและมุมมองใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำเดิมส่งเข้าประกวด ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างสรรค์วงการถ่ายภาพให้ก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดอยู่กับที่

กลุ่มเป้าหมาย

  • นักถ่ายภาพทั้งมืออาชีพ และสมัครเล่น
  • นักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจในการถ่ายภาพ

ผู้จัด

  • สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
  • บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

ประเภทของภาพถ่าย

ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะต้องส่งภาพถ่ายในรูปแบบของไฟล์ดิจิตอล หรือไฟล์ภาพถ่ายที่สแกนมาจากฟิล์มเท่านั้น จะไม่รับภาพถ่ายที่อัดขยายบนกระดาษอัดรูป

ผู้มีสิทธิ์ส่งภาพเข้าประกวด

ประชาชนทั่วไป ไม่จำกัดเพศและวัย

ประธานคณะกรรมการตัดสิน

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา

คณะกรรมการอำนวยการ

•  นายนิติกร กรัยวิเชียร (ประธานกรรมการอำนวยการ)

•  นายบุณฐไชย ไชยวิรุณเจริญ

•  นายขจร พีรกิจ

•  นายสมศักดิ์ พัฒนพิฑูรย์

•  นายจุฬวิศว์ ศานติพงศ์

•  นายพลัฏฐ์ ไชยพิทักษ์กูล

•  นายตุลย์ หิรัญญลาวัลย์

•  นางกนกรัตน์ ทนุกูล

•  นางสาวปิยาภรณ์ ขาวเขียว

•  นางสาวสรยา คงรักษา

•  นายธัชชะ รัตนศักดิ์ (กรรมการและเลขานุการ)

รางวัล
รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทาน

• ชนะเลิศถ้วยพระราชทานในหัวข้อ “ไกลสุดกู่”

ได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และเงินรางวัล จำนวน 100,000บาท จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

• ชนะเลิศถ้วยพระราชทานในหัวข้อ “ตัด”

ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
และเงินรางวัล จำนวน 100,000 บาท จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

• ชนะเลิศถ้วยพระราชทานในหัวข้อ “บาน”

ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
และเงินรางวัล จำนวน 100,000 บาท จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

• ชนะเลิศถ้วยพระราชทานในหัวข้อ “กลอน”

ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
และเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

• ชนะเลิศถ้วยพระราชทานในหัวข้อ “ดีด”

ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
และเงินรางวัล จำนวน100,000 บาท จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

• ชนะเลิศถ้วยพระราชทานในหัวข้อ “กลัว”

ได้รับถ้วยประทานทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
และเงินรางวัล จำนวน 100,000 บาท จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 เหรียญทองเกียรติยศ

หัวข้อละ 1 รางวัล ได้รับเหรียญทองเกียรติยศจากสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยฯ
และเงินรางวัล จำนวน 50,000 บาท จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 เหรียญเงินเกียรติยศ

หัวข้อละ 1 รางวัล ได้รับเหรียญเงินเกียรติยศจากสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยฯ
และเงินรางวัล จำนวน 30,000 บาท จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 3 เหรียญทองแดงเกียรติยศ

หัวข้อละ 5 รางวัล (รวม 30 รางวัล) ได้รับเหรียญทองแดงเกียรติยศจากสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยฯ
และเงินรางวัล จำนวน 10,000 บาท จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

การส่งผลงาน : ระหว่างวันที่ 5-31 มกราคม 2558

สิ้นสุดการส่งภาพถ่ายวันที่ 31มกราคม2558เวลา 18.00 น. (ปิดการอัพโหลด)

วิธีการส่งภาพประกวด

ส่งภาพถ่ายผ่านระบบเว็บของสมาคมฯ เท่านั้น
ผู้ประสงค์จะส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะต้องลงทะเบียนสมัครที่ http://www.rpst.or.th/system/public/ โดยผู้สมัครจะต้องกรอกรายละเอียด พร้อมสร้าง Username และ Password  ขึ้นมาเอง เมื่อสมัครครบ 48 ชั่วโมง จะสามารถเข้าเว็บไซต์เพื่อทำการ Upload ภาพถ่ายได้ สำหรับผู้ที่เคยร่วมกิจกรรมส่งภาพถ่ายเข้าประกวดของสมาคมฯเรียบร้อยแล้ว สามารถใช้ Username  และ Password ที่ใช้อยู่ทำการ Login เพื่อร่วมกิจกรรมได้เลย โดยระบบจะเริ่มเปิดให้ส่งภาพถ่าย ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2558 เป็นต้นไป

กติกาในการส่งภาพถ่ายเข้าประกวด
(กรุณาอ่านอย่างละเอียดทุกข้อ)

เพื่อให้การประกวดภาพถ่ายแห่งแผ่นดินเป็นเวทีการประกวดที่คงไว้ซึ่งมาตรฐานสูงสุดและต้องการมุ่งเน้นให้ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดสร้างสรรค์ผลงานที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำเดิม ทั้งในด้านของมุมมองและแนวความคิด เพื่อให้สมกับเกียรติยศและศักดิ์ศรีของรางวัลถ้วยพระราชทาน คณะกรรมการอำนวยการจึงบัญญัติกติกาที่ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ดังต่อไปนี้

  1. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดสามารถส่งได้ทั้งภาพที่ถ่ายโดยการใช้กล้อง Digital และกล้องบรรจุฟิล์มหรือการบันทึกภาพด้วยเครื่องมือหรือวิธีการอื่นๆ ในกรณีที่ใช้กล้องบรรจุฟิล์ม จะต้องนำฟิล์มไปสแกนเป็นไฟล์ภาพดิจิทัลความละเอียดสูง และต้องเป็นภาพถ่ายที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 2 ปี นับจากวันที่ถ่ายถึงวันหมดเขตรับภาพ (ต้องเป็นภาพถ่ายที่ถูกถ่ายหลังจากวันที่ 31 มกราคม 2556 เท่านั้น)
  2. ไฟล์ภาพถ่ายที่ส่ง ต้องเป็นไฟล์ภาพถ่ายที่มีขนาดด้านที่สั้นที่สุดไม่ต่ำกว่า 1,800 Pixel และด้านที่ยาวที่สุดไม่เกินกว่า 2,800 pixels ในรูปแบบไฟล์ .jpg เท่านั้น และต้องไม่มีลายน้ำ เครดิตภาพ ตัวอักษร หรือกราฟิกใดๆ ลงบนภาพถ่าย รวมทั้งห้ามเว้นขอบภาพเป็นสีขาวหรือสีใดๆ
  3. ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะต้องสมัครเข้าระบบเว็บไซต์ของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์พร้อมกรอกรายละเอียดที่ถูกต้องตามหลักฐานจริง
  4. ผู้ที่ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะต้องเป็นผู้สร้างสรรค์ภาพถ่ายนั้นๆ ด้วยตนเอง ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง เลียนแบบภาพถ่ายของบุคคลอื่นๆ หรือนำภาพถ่ายของผู้อื่นมาส่งหรือส่งในนามผู้อื่นโดยเด็ดขาด ผู้ที่ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดขอรับรองว่าภาพถ่ายที่ถูกส่งเข้าประกวดนั้น เป็นภาพถ่ายที่ตนเองเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว ทั้งนี้หากมีบุคคลที่สามกล่าวอ้างว่าภาพถ่ายที่ผู้ส่งภาพเข้าประกวดได้ส่งเข้าประกวดนั้น มีการละเมิดต่อกฎหมายพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ผู้ที่ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะขอรับผิดชอบต่อค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว โดยที่สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์จะไม่รับผิดชอบใดๆต่อความรับผิดของผู้ที่ส่งภาพถ่ายเข้าประกวด
  5. ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะต้องตั้งชื่อภาพถ่าย และระบุสถานที่ที่ถ่ายภาพ (ไม่จำกัดสถานที่) และเขียนคำอธิบายแนวความคิดไม่เกิน 2 บรรทัด หากภาพถ่ายใดข้อมูลไม่ครบถ้วน จะถูกตัดสิทธิ์การส่งเข้าประกวด
  6. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดในหัวข้อที่ 1,2, 3, 4 และ 5 สามารถปรับแต่งภาพถ่ายได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องไม่ปรับแต่งภาพถ่ายโดยการใช้ภาพถ่ายมากกว่า 1 ภาพมาประกอบกันต้องเป็นภาพถ่ายจากการถ่ายที่ได้ไฟล์จากกล้องเพียงไฟล์เดียว ส่วนในหัวข้อที่ 6 สามารถปรับแต่งได้อย่างเสรีไม่มีข้อจำกัดสามารถใช้ภาพถ่ายมากกว่า 1 ภาพมาจัดวางองค์ประกอบได้
  7. ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดแต่ละคนสามารถส่งผลงานภาพถ่ายได้ทุกหัวข้อ หัวข้อละไม่เกิน 4 ภาพ โดยห้ามมิให้ส่งภาพถ่ายเดียวกันหรือภาพถ่ายที่มีองค์ประกอบใกล้เคียงกับที่ส่งแล้วในหัวข้อหนึ่งซ้ำกันอีกในหัวข้ออื่น และผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดแต่ละคนจะมีสิทธิ์รับรางวัลได้มากกว่า 1 รางวัล
  8. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดต้องไม่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดใดๆ มาก่อนไม่ว่าจะเป็นการประกวดในเวทีสาธารณะ หรือการประกวดภายในของสมาคม ชมรม หรือองค์กรอื่นใด ทั้งนี้ภาพถ่ายดังกล่าวหมายความรวมถึงภาพถ่ายที่ถ่ายในองค์ประกอบที่ใกล้เคียงกัน เช่น การถ่ายภาพในครั้งเดียวกันหลายภาพ การเปลี่ยนองค์ประกอบของภาพเพียงเล็กน้อย การเปลี่ยนภาพจากภาพสีเป็นภาพขาวดำ การคร็อปภาพใหม่ หรือภาพถ่ายที่ถ่ายในองค์ประกอบเดียวกันกับผู้อื่นที่เคยได้รับรางวัลมาแล้วไม่ว่าจากเวทีใดๆ ทั้งนี้ให้ถือเป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการตัดสิน
  9. ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดจะต้องไม่ส่งภาพถ่ายที่เคยเผยแพร่ในเว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดียทุกชนิด รวมไปถึงภาพถ่ายที่ส่งขายอยู่ในคลังภาพ (Stock Photo) ไม่ว่าในประเทศไทยหรือต่างประเทศ (เนื่องจากในปัจจุบันมีการนำภาพถ่ายที่ปรากฏในโลกออนไลน์ไปใช้งานโดยไม่สามารถตรวจสอบได้ สามารถนำไปแบ่งปันกระจายออกไปโดยที่เจ้าของภาพถ่ายอาจไม่รู้ตัวและอาจเกิดกรณีพิพาทการละเมิดลิขสิทธิ์ทำให้เกิดความยุ่งยากกับการประกวด เนื่องจากภาพถ่ายที่ได้รับรางวัลอาจถูกนำไปใช้ในงานต่างๆ ก่อนการตัดสิน)
  10. ผู้ที่ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดต้องรักษาไฟล์ภาพต้นฉบับก่อนการปรับแต่งและภาพหลังการปรับแต่งแล้วในความละเอียดสูงไว้ ในกรณีมีการประท้วงในการทำผิดกติกาและในกรณีที่จะต้องนำภาพถ่ายไปพิมพ์ในขนาดใหญ่หากถ่ายภาพเป็น RAW FILE ไว้ด้วย ควรเก็บ RAW FILE นั้นไว้ เพื่อแสดงเป็นหลักฐาน ในกรณีที่ภาพถ่ายอาจมีปัญหาในภายหลัง
  11. คณะกรรมการตัดสินภาพถ่ายในโครงการภาพถ่ายแห่งแผ่นดินประจำปี 2558 และคณะกรรมการบริหารสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ไม่มีสิทธิ์ในการส่งภาพถ่ายเข้าประกวดในครั้งนี้
  12. คณะผู้จัดงานมีสิทธิ์คัดเลือกภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดเพื่อนำไปจัดแสดงในที่ต่างๆ และมีสิทธิ์ในการจัดพิมพ์เผยแพร่ผลงานในสูจิบัตร และเอกสารสิ่งพิมพ์ รวมทั้งสารสนเทศทุกประเภท
  13. ไฟล์ภาพถ่ายทุกไฟล์ที่ส่งเข้าประกวดสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะไม่ส่งคืนให้ผู้เข้าร่วมประกวด สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์มีสิทธิ์ในการเผยแพร่ภาพถ่ายเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมของสมาคมฯ เป็นเวลา 1 ปีนับจากวันที่ประกาศผลการตัดสินรอบแรก รวมไปถึงมีสิทธิ์จัดพิมพ์สูจิบัตรงานภาพถ่ายแห่งแผ่นดินเพื่อแจกจ่ายและจำหน่ายได้ โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์แก่เจ้าของลิขสิทธิ์ภาพถ่ายนั้นๆ แต่ลิขสิทธิ์ของภาพทุกภาพยังคงเป็นของ ผู้ถ่ายภาพอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้สมาคมฯ จะระบุชื่อเจ้าของผลงานให้ทุกครั้งที่นำภาพถ่ายไปใช้ เมื่อพ้นจากช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว หากสมาคมฯมีความประสงค์จะใช้ภาพใด สมาคมจะติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของภาพก่อนเป็นรายกรณี และจะใช้ภาพเมื่อได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วเท่านั้น ส่วนภาพที่จัดพิมพ์เพื่อแสดงนิทรรศการภาพถ่ายแห่งแผ่นดินทุกภาพถือเป็นกรรมสิทธิ์ของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
  14. หากปรากฏว่าผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดเจตนาฝ่าฝืนกติกาข้อใดข้อหนึ่งที่กำหนดไว้ข้างต้นนี้คณะกรรมการอำนวยการมีอำนาจในการตัดสิทธิ์ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดผู้นั้นโดยมีโทษตั้งแต่การตัดสิทธิ์ในการประกวด การเพิกถอนสิทธิ์ในทุกถ้วยรางวัล จนถึงโทษขั้นสูงสุดไม่ให้ส่งภาพเข้าประกวดในทุกกิจกรรมของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นระยะเวลา 5 ปีนับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอำนวยการได้มีมติตัดสิทธิ์ภาพถ่ายนั้นๆ ทั้งนี้หากผู้ส่งภาพเข้าประกวดที่เจตนากระทำผิดกติกาในภาพถ่ายใดภาพถ่ายหนึ่ง แต่ได้ส่งภาพถ่ายอื่นเข้าร่วมประกวดด้วย แม้ภาพถ่ายเหล่านั้นจะไม่ผิดกติกา ก็จะถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้รับรางวัลใดๆ ด้วย ส่วนข้อผิดพลาดอื่นๆ ที่มิได้เกิดจากเจตนาทุจริต เช่น การกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน การส่งภาพถ่ายผิดขนาดหรืออื่นๆ คณะกรรมการอำนวยการอาจตัดสินให้ภาพถ่ายนั้นเป็นโมฆะตามแต่กรณี
  15. ผู้ส่งภาพถ่ายเข้าประกวดไม่มีสิทธิ์อ้างว่ากระทำผิดเพราะอ่านกติกาไม่ครบถ้วน และการตัดสินของคณะกรรมการ ถือเป็นที่สิ้นสุด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
คุณอิศรา ไหมทอง / คุณกิตติยา เชื้อทอง
โทร. 091-115-7585 อังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.30 – 18.00 น.
หรือส่ง email มาที่ rpst.info@gmail.com

ชมวิดีโอแนะนำการสมัครร่วมกิจกรรมและการส่งภาพได้ที่นี่

#PHOTOKINGDOM2015

ผลการตัดสินการประกวดภาพถ่าย สายน้ำแห่งวัฒนธรรม

River-Contest_winner

สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
ได้จัดโครงการประกวดภาพถ่ายสายน้ำแห่งวัฒนธรรม หัวข้อ “6 ท่าน้ำ 6อารมณ์”
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสานต่อมรดกทางวัฒนธรรมร่วมเปิดเรื่องราวของสายน้ำให้คนรุ่นใหม่ได้รับรู้ผ่านภาพถ่ายและเพื่อรวบรวมภาพสำหรับใช้ในกิจการของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจจำกัด (มหาชน) ทั้งนี้การตัดสินภาพถ่าย ได้ดำเนินเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยมีผลการตัดสินดังนี้

รางวัลชนะเลิศ
วรรณพงษ์ สุรโรจน์ประจักษ์
เงินรางวัล 50,000 บาท

ภาพโดย : วรรณพงษ์ สุรโรจน์ประจักษ์

The magnificence

รางวัลรองชนะเลิศอับดับที่ 1
หรรษา ตั้งมั่นภูวดล
เงินรางวัล 20,000 บาท

ภาพโดย : หรรษา ตั้งมั่นภูวดล

สีสันสายน้ำเจ้าพระยา

รางวัลรองชนะเลิศอับดับที่ 2
วีระยุทธ พิริยะพรประภา
เงินรางวัล 10,000 บาท

ภาพโดย : วีระยุทธ พิริยะพรประภา

พริ้วไหวและสายน้ำ

รางวัลชมเชย
ณัฐพงษ์ ใจชาญสุขกิจ
เงินรางวัล 5,000 บาท

ภาพโดย : ณัฐพงษ์ ใจชาญสุขกิจ

ลอยกระทง

รางวัลชมเชย
พันธุ์ธัช สิทธิ์เดชวิรดี
เงินรางวัล 5,000 บาท

ภาพโดย : พันธุ์ธัช สิทธิ์เดชวิรดี

เนรมิต

รายชื่อคณะกรรมการตัดสิน
1. นายดาว วาสิกศิริ
2. นายขจร พีรกิจ
3. นายบุณฐไชย ไชยวิรุณเจริญ
4. นายตุลย์ หิรัญญลาวัลย์
5. นายพลัฏฐ์ ไชยพิทักษ์กูล

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ปิยาภรณ์ ขาวเขียว (เป้) โทร. 087 076 4564
จันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-17.00 น.

Read more