โครงการประกวดภาพถ่าย “รักษ์เอกรงค์” ครั้งที่ 4 ประจําปี 2562 ชิงรางวัลถ้วยศิลปินแห่งชาติ “ยรรยง โอฬาระชิน”

สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ได้กําหนดจัดโครงการประกวดภาพถ่าย “รักษ์เอกรงค์” ประจําปี 2562 ชิงถ้วยรางวัลศิลปินแห่งชาติยรรยง โอฬาระชิน ขึ้น โดยการจัดประกวดภาพถ่ายโครงการนี้ได้จัดขึ้นปีนี้เป็นปีที่ 4 ซึ่งเกิดขึ้นจากคณะกรรมการบริหารสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์มีดําริร่วมกันว่า อาจารย์ยรรยง โอฬาระชิน เป็นนักถ่ายภาพอาวุโส ผู้มีคุณูปการแก่วงการถ่ายภาพของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่าย) ประจําปีพุทธศักราช 2550 และ ดํารงตําแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิของสมาคมฯ จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติอาจารย์ยรรยง โอฬาระชิน คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้จัดการประกวดภาพถ่ายชิงถ้วยรางวัลศิลปินแห่งขาติ “ยรรยง โอฬาระชิน” ขึ้น โดยสมาคมฯ มีความตั้งใจที่จะจัดโครงการประกวดดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นประจําทุกปีเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมผู้ที่รักการถ่ายภาพในแนวทางนี้ ให้มีเวทีประกวดเป็นการเฉพาะ และเพื่อสร้างกําลังใจให้แก่กลุ่มช่างภาพที่สนใจและยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลงานในการถ่ายภาพด้วยฟิล์มขาวดํารวมถึงการเรียนรู้และฝึกฝนเทคนิคการล้างอัดภาพจากฟิล์มขาวดําเพื่อไม่ให้สูญหายไปตามกาลเวลา

สามารถโหลดใบสมัครได้ที่นี่

รางวัล

  • รางวัลชนะเลิศ 1 รางวัล ถ้วยเกียรติยศ “ยรรยง โอฬาระชิน” พร้อมเงินสด 100,000 บาท
  • หมายเหตุ : ผู้ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย จะได้รับเกียรติบัตรสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

กําหนดวันส่งภาพ

เปิดรับภาพที่ห้องสมาคมฯ ตั้งแต่วันที่ 15 – 31 มีนาคม 2562 (ยกเว้นวันจันทร์) เวลา 12.00 – 18.00 น. กรณีส่งภาพทางไปรษณีย์ภาพต้องถึงที่สมาคมฯก่อนวันปิดรับภาพ

วิธีการส่งภาพประกวด มี 2 ช่องทาง (ท่านสามารถเลือกช่องทางการส่งภาพดังนี้)

  1. ส่งไปรษณีย์ที่อยู่สมาคมฯเลขที่ 207 ชั้น 2 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร 939 ถ.พระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน 10330
  2. การส่งภาพด้วยตนเองที่ห้องสมาคมฯ ชั้น 2 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

หลักเกณฑ์และกฎกติกาในการส่งภาพประกวด

1. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นภาพที่ถ่ายโดยกล้องบรรจุฟิล์ม ซึ่งต้องใช้ฟิล์มขาวดํา หรือฟิล์มอินฟราเรดขาวดํา ในการบันทึกภาพเท่านั้นไม่จํากัดหัวข้อ และเนื้อหาของภาพถ่าย รวมถึงไม่มีการจํากัดอายุของภาพที่ส่งเข้าร่วมประกวด (กรณีที่ได้รับรางวัลค่อยส่งฟิลม์ขาวดํามาตรวจสอบ)

2. อัดขยายภาพขาวดํา ขนาด 12”X18” ติดลงบนกระดาษการ์ด หรือฟิวเจอร์บอร์ดสีดําหรือสีเทา เว้นขอบโดยรอบภาพถ่ายขนาดด้านละ 2 นิ้ว

3. สามารถตกแต่งภาพได้แต่อย่าให้เกินจากความเป็นจริง (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจกรรมการ)

4. ผู้ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องระบุชื่อ-นามสกุลจริง(ไทย-อังกฤษ) ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์และอีเมลอย่างครบถ้วนในใบสมัครที่กําหนดให้ หากผู้ส่งเข้าประกวดเป็นชาวต่างประเทศจะต้องมีที่พํานักอยู่ในประเทศไทยในช่วงตั้งแต่การรับสมัครถึงวันที่ตัดสินรอบสุดท้าย ทั้งนี้ผู้จัดฯ จะยึดถือข้อมูลการสะกดชื่อ-นามสกุล (ไทย-อังกฤษ) ตามที่ผู้สมัครแต่ละคนระบุมาในการสมัคร และติดผนึกใบสมัครไว้บนกระดาษการ์ด หรือแผ่นฟิจเจอร์บอร์ดด้านหลังของภาพ

5. ผู้ที่ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องเป็นผู้ถ่ายภาพนั้นๆด้วยตนเองห้ามนําภาพของผู้อื่นมาส่งหรือส่งในนามผู้อื่นโดยเด็ดขาด

6. ผู้ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องตั้งชื่อภาพถ่ายและระบุสถานที่ที่ถ่ายภาพ(ไม่จํากัดสถานที่) และเขียนคําอธิบายแนวความคิดไม่เกิน 2 บรรทัด หากภาพถ่ายใดข้อมูลไม่ครบถ้วน จะถูกตัดสิทธิ์การส่งเข้าประกวด

7. ผู้เข้าประกวดแต่ละคนสามารถส่งผลงานภาพถ่ายได้ไม่เกิน 5 ภาพ

8. ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดต้องไม่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดใดๆมาก่อนไม่ว่าจะเป็นการประกวดในเวทีสาธารณะ หรือการประกวดภายในของสมาคม ชมรม หรือองค์กรอื่นใด ทั้งนี้ภาพถ่ายดังกล่าวหมายรวมถึงภาพที่ถ่ายในองค์ประกอบที่ใกล้เคียงกัน เช่น การถ่ายภาพในครั้งเดียวกันหลายภาพ การเปลี่ยนองค์ประกอบของภาพเพียงเล็กน้อย การเปลี่ยนภาพจากภาพสีเป็นภาพขาวดํา การคร็อปภาพใหม่ หรือภาพถ่ายที่ถ่ายในองค์ประกอบเดียวกันกับผู้อื่นที่เคยได้รับรางวัลมาแล้วไม่ว่าจากเวทีใดๆ ทั้งนี้ให้ถือเป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการตัดสิน

9. ภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นภาพที่ไม่มีลิขสิทธิ์ผูกพันกับองค์กรใดๆ หรือเป็นภาพที่จําหน่ายใน Stock Photo

10. ผู้ที่ส่งภาพเข้าประกวดต้องรักษาภาพต้นฉบับไว้ในกรณีที่คณะกรรมการตัดสินภาพมีข้อสงสัยสามารถเรียกให้ผู้เข้าร่วมประกวดแสดงภาพต้นฉบับได้

11. คณะกรรมการตัดสินภาพถ่าย และคณะกรรมการบริหารสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ไม่มีสิทธิ์ในการส่งภาพถ่ายเข้าประกวดในครั้งนี้

12. คณะผู้จัดงานมีสิทธิ์คัดเลือกภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดเพื่อนําไปจัดแสดงในที่ต่างๆและมีสิทธิ์ในการจัดพิมพ์เผยแพร่ผลงานในสูจิบัตรและเอกสารสิ่งพิมพ์ รวมทั้งสารสนเทศทุกประเภท

13. ภาพที่ได้รับรางวัลจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะผู้จัดงานแต่ลิขสิทธิ์ของภาพทุกภาพยังคงเป็นของผู้ถ่ายภาพอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ภายในระยะเวลา 1 ปีนับตั้งแต่วันที่มอบรางวัล สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีสิทธิในการใช้ประโยชน์และเผยแพร่ภาพถ่าย และชิ้นงาน เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ขององค์กร และประชาสัมพันธ์ได้โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์แก่เจ้าของลิขสิทธิ์ภาพถ่าย ทั้งนี้สมาคมฯ จะระบุชื่อเจ้าของผลงานให้ทุกครั้งที่นําภาพถ่ายไปใช้

14. หากปรากฏว่าผู้ส่งภาพเข้าประกวดเจตนาฝ่าฝืนกติกาข้อใดข้อหนึ่งที่กําหนดไว้ข้างต้นนี้คณะกรรมการอํานวยการมีอํานาจในการตัดสิทธิ์ผู้ส่งภาพเข้าประกวดผู้นั้นไม่ให้ส่งภาพเข้าประกวดในทุกกิจกรรมของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นเวลา 5 ปี ส่วนข้อผิดพลาดอื่นๆ ที่มิได้เกิดจากเจตนาทุจริต เช่น การกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน การส่งภาพผิดขนาดหรืออื่นๆ คณะกรรมการอํานวยการอาจตัดสินให้ภาพนั้นเป็นโมฆะตามแต่กรณี

15. ผู้ส่งภาพเข้าประกวดไม่มีสิทธิ์อ้างว่ากระทําผิดเพราะอ่านกติกาไม่ครบถ้วนและการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด